อาคารสีเขียวมาแรง ตอบโจทย์ผู้เช่ายุคใหม่ หนุนสู่ Net Zero
net-zero
26

อาคารสีเขียวมาแรง ตอบโจทย์ผู้เช่ายุคใหม่ หนุนสู่ Net Zero

    JLL ชี้อาคารสีเขียวมาแรง ผู้เช่าส่วนใหญ่ต้องการอาคารเป็นมิตรสิ่งแวดล้อม 100% ภายในปี 2573 จากปัจจุบันที่มีอยู่แค่ 17% ส่วนอาคารที่ได้ Green Certificated มีอยู่แค่ 4% แต่ยังไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด ส่วนไทยอาคารเขียวมีแค่ 3.37 ล้านตารางเมตร 84 โครงการ

นายไมเคิล แกลนซี่ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศ ไทย) จํากัด (JLL) บริษัทที่ปรึกษาและบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า แนวคิดด้าน ESG ซึ่งประกอบด้วย Environment, Social และ Governance ยังเติบโตต่อเนื่องตลอดปี 2567 โดยปริมาณผู้เช่าที่กำลังมองหาอาคารสำนักงานที่มีความยั่งยืน รวมถึงผ่านการตรวจสอบรับรองมาตรฐานการทำงานของอาคาร ที่ต้องบรรลุเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ (Corporate Net Zero Goals) รวมทั้งมาตรฐาน LEED และ WELL จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

 

ผู้เช่าต้องการ Green Certificated 100%

JLL ได้สำรวจความต้องการของผู้เช่าทั่วเอเชีย พบว่าภายในปี ค.ศ. 2030 หรือ พ.ศ.2573 สินทรัพย์ในพอร์ตโฟลิโอที่ผู้เช่าถือครองอยู่ ไม่ว่าจะเป็น โรงแรม ที่พักอาศัย หรือออฟฟิศ ต้องได้ Green Certificated 100% ซึ่งปัจจุบันมีอยู่แค่ 4% ที่ได้ 100% และคาดว่าในอีก 6 ปีข้างหน้าจะเพิ่มขึ้นเป็น 87%แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อคนนอกจากนี้ กระแส Fight-to-quality และ Flight-to-green เริ่มเห็นชัดมากขึ้น ในตลาดศูนย์การค้าและคลังสินค้าโลจิสติกส์ และมีแนวโน้มขยายไปสู่ภาคธุรกิจโรแรมและที่อยู่อาศัยต่อเนื่อง

ส่วนอาคารสำนักงาน ESG กลายเป็นสิ่งจำเป็น นักพัฒนาโครงการและนักลงทุนพยายามมุ่งเน้นสร้างมาตรฐานที่การรับรองด้านต่าง อาทิ LEED และ WELL โดยบริษัทข้ามชาติมักถูกกำหนดให้ใช้พื้นที่สำนักงาน เฉพาะที่ได้รับการรับรองด้าน ESG โดย JLL พบข้อมูลว่า การเช่าพื้นที่สำนักงานใหม่กว่า 90% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จะเช่าสำนักงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในขณะที่ค่าเช่าเฉลี่ยสูงกว่าอาคารระดับเดียวกันถึง 14%

อาคารสีเขียวมาแรง ตอบโจทย์ผู้เช่ายุคใหม่ หนุนสู่ Net Zero

Green Certificated สู่ Net Zero

นายอนาวิล เจียมประเสริฐ หัวหน้าแผนกบริการงานวิจัยและให้คำปรึกษา บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จํากัด (JLL) กล่าวว่า พฤติกรรมการเลือกเช่าอาคารของผู้เช่าเปลี่ยนแปลงไป ปัจจุบันให้ความใส่ใจกับเรื่องของ ESG มาเป็นอับดับแรก แทนเรื่องโลเคชั่น และค่าเช่า เพราะบริษัทต่างชาติให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก โดยพบว่าใน 6 เมืองหลักของเอเชีย อาทิ เดลฮี ฮ่องกง เมลเบิร์น มุมไบ สิงคโปร์ และซิดนี่ย์ มีความต้องการมาก แต่อาคารที่มีอยู่สามารถรองรับได้เพียง 40% ส่วนที่เหลือดีเวลลอปเปอร์ พยายามปรับปรุงอาคาร เพื่อให้ได้ตามเกณฑ์ที่ผู้เช่าต้องการ (green certification obsession to replaced)

“ทุกคนพูดเรื่อง Green Certificated แต่สิ่งสำคัญ คือการทำให้เกิดขึ้นจริงได้ ต่อไปนี้โฟกัสของผู้เช่า จะย้ายไปอยู่ที่การรักษามาตรฐานและการวัดผลได้ เพื่อให้เกิด Net Zero ขึ้นจริงในระยะยาว ผ่านการทำ Building Performance Certification และในปี 2573 หรือ 6 ปีข้างหน้า 50% ของผู้เช่า วางแผนที่จะเช่าพื้นที่ที่เป็น Zero Energy Building เท่านั้น”

สำหรับประเทศไทย มีอาคารที่ได้รับอาคารเขียวแค่ 1.74 ล้านตารางเมตร 44 โครงการ ปัจจุบันภายในปี ค.ศ.2024 เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า คือ 3.37 ล้านตารางเมตร จำนวน 84 โครงการ ในขณะที่พื้นที่ให้เช่าทั้งหมดมีอยู่ 10.5 ล้านตารางเมตร และอีก 5 ปี จะขึ้นมาเป็น 3.91 ล้านตารางเมตร รวม 92 โครงการ

มุ่งสู่การใช้พลังงานหมุนเวียน

นอกจากนี้ จากผลสำรวจ ยังพบว่าผู้ใช้งานอาคารกว่า 37% ในประเทศไทย มีเป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ภายในปี 2573 ทำให้การใช้พลังงานหมุนเวียนในอาคารกลายเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญ และ 80% ยังคาดว่าจะเปลี่ยนรูปแบบพลังงานไปเป็นแบบหมุนเวียนเพิ่มขึ้นจาก 23% ซึ่งการเปลี่ยนมาใช้พลังงานหมุนเวียน ถือเป็นก้าวสำคัญในการกำหนดนิยามใหม่สำหรับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ และพลิกโฉมอาคารจากการบริโภคพลังงานแบบเชิงรับ ไปสู่การมีส่วนร่วมในการผลิตพลังงานหมุนเวียนในพื้นที่

ยิ่งไปกว่านั้นยังคาดว่าความต้องการพื้นที่ปล่อยคาร์บอนตํ่า ยังมีส่วนในการพิจารณาต่ออายุสัญญาเช่ากว่า 70% ภายในปี 2571 ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของ ESG ในการตัดสินใจด้านอสังหาริมทรัพย์ และถึงแม้ว่าดีเวลลอปเปอร์จะมุ่งเน้นที่การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการสร้างอาคาร แต่ผลกระทบจากการติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ มักถูกมองข้ามไป ในปัจจุบัน ผู้ใช้อาคารกว่า 70% ในประเทศไทยที่ทำแบบสำรวจระบุว่า การลงทุนติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในสำนักงานถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยด้านความยั่งยืนที่ท้าทายที่สุด

ESG ช่วยประหยัดต้นทุนถึง 6%

JLL ยํ้าถึงข้อได้เปรียบสำคัญในการผสานรวมหลักการ ESG เข้ากับการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์และกลยุทธ์การลงทุน ซึ่งประกอบไปด้วยการดึงดูดลูกค้าและรักษาความสัมพันธ์กับผู้เช่าด้วยเป้าหมาย ESG ผลต่างระหว่างผลตอบแทน (Green Premium) จากค่าเช่าและมูลค่าสินทรัพย์ที่ได้ การรวมแนวคิด ESG เข้ากับการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์และการลงทุน ทำให้ผู้ประกอบการสามารถประหยัดต้นทุนได้มากถึง 6% ของรายได้ต่อปี ผ่านการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นและการลดของเสีย

อนาคตเรื่องของอาคารเขียว จะไม่ใช่เรื่องแค่ของผู้เช่าและผู้ให้เช่า แต่ผู้เช่ามีเป้าหมายสำคัญคือ สร้างการรับรู้ให้กับพนักงาน ได้ตระหนักถึงข้อดีในการอยู่ใน Sustainable Building มาเป็นอันดับแรก ตามมาด้วยเรื่องการบริหารจัดการพลังงาน ของเสีย นํ้า และอื่น ๆ โดยต้องมีการตรวจสอบมาตรฐานของอาคารต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดผลจริงทางด้านความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานในอาคาร ต้องได้รับการบริหารจัดการพื้นที่ในการทำงานที่ดี มีแสงเพียงพอ อุณหภูมิเหมาะสม เป็นต้น

JLL ลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสโคป 1, 2, 3

นายไมเคิล กล่าวว่า ในฐานะบริษัทที่ปรึกษาและบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ ทาง JLL ได้ให้ความสำคัญกับเรื่อง ESG โดยเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อม ที่ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในขอบเขต 1, 2 และ 3 ลง 95% ภายในปี 2583 ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับมาตรฐาน SBTi Net-Zero รวมไปถึงการย้ายที่ตั้งสำนักงานไปยัง The PARQ ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานแห่งแรกของไทยที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน WELLมีการออกโปรเจกต์ด้านความยั่งยืนที่หลากหลาย ซึ่งมีเป้าหมายในการลดของเสีย ผลักดันการขนส่งที่มีความยั่งยืน และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน

สิ่งที่ JLL ประเทศไทยดำเนินการไปแล้ว มีทั้งการเปลี่ยนรถใช้งานของบริษัทมาเป็นรถยนต์ไฟฟ้าทำให้ลดการใช้เชื้อเพลิงได้ 20% และยังตั้งเป้าลดปริมาณขยะจากองค์กรไปสู่แลนด์ฟิวด์หรือหลุมฝังกลบเป็นศูนย์ ภายใต้โครงการ Zero Waste Landfill ภายในไตรมาส 2 ปี 2567 นี้ ช่วยกำจัดขยะพลาสติกแบใช้ครั้งเดียว รวมไปถึงการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของพนักงาน โดยการจัดพื้นที่การทำงานที่ดีเหมาะสมกับการทำงาน และการใช้ชีวิตอยู่ในที่ทำงาน ซึ่งล่าสุดเตรียมนำบาริสต้ามาประจำที่ออฟฟิศ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพนักงานอีกด้วย

นอกจากนี้ JLL ยังเตรียมเจรจากับทางเฟรเซอร์ส พร๊อพเพอร์ตี้ เจ้าของอาคาร The PARQ ในการขอความร่วมมือกับเหล่าผู้เช่าและร้านค้าในอาคาร ให้เลือกใช้แพ็กเกจจิ้งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยที่ผ่านมายังได้ร่วมจัดกิจกรรมให้ความรู้ในเรื่องของความเท่าเทียม การกุสล ความยั่งยืน การเรียนรู้และการพัฒนา รวมถึงความผูกพันในสังคมให้กับทีมงาน

ข่าวล่าสุด

นิวซีแลนด์นำหน้าลุย 'พลังงานไฮโดรเจน' ลงทุนเต็มสูบ เพื่ออนาคตสีเขียว

นิวซีแลนด์นำหน้าลุย 'พลังงานไฮโดรเจน' ลงทุนเต็มสูบ เพื่ออนาคตสีเขียว

Read More...